Delcious Icecream expr:class='"loading" + data:blog.mobileClass'>

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

กิจกรรมที่ 3




✨ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ✨




          1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 
          2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
          3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน
          4. การลงมือทำโครงงาน
          5. การเขียนรายงาน
          6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน






1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 
          โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้ 
          1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรือวารสารต่างๆ
          2. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ
          3. การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งการสนทนาอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ
          4. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน
          5. งานอดิเรกของนักเรียน
          6. การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
          1. ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
          2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
          3. มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคำปรึกษา
          4. มีเวลาเพียงพอ
          5. มีงบประมาณเพียงพอ
          6. มีความปลอดภัย 




2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล 
          การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คำตอบว่า
          1. จะทำ อะไร
          2. ทำไมต้องทำ
          3. ต้องการให้เกิดอะไร
          4. ทำอย่างไร
          5. ใช้ทรัพยากรอะไร
          6. ทำกับใคร
          7. เสนอผลอย่างไร 








3. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน 
รายงานรายละเอียดที่ต้องระบุ
ชื่อโครงงานทำอะไร กับใคร เพื่ออะไร
ประเภทโครงงานวิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้
ชื่อผู้จัดทำโครงงานผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้
ครูที่ปรึกษาโครงงานครู-อาจารย์ผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุมการทำโครงงานของนักเรียน
ครูที่ปรึกษาร่วมครู-อาจารย์ผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาร่วม ให้คำแนะนำในการทำโครงงานของนัีกเรียน
ระยะเวลาดำเนินงานระยะเวลาการดำเนินงานโครงงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด กำหนดเป็นวัน หรือ เดือนก็ได้
แนวคิด ที่มา และความสำคัญสภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและความคาดหวังที่จะเกิดผล
วัตถุประสงค์สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานทั้งในเชิงกระบวนการ และผลผลิต
หลักการและทฤษฎี  หลักการและทฤษฎีที่นำมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน
วิธีดำเนินงาน กิจกรรมหรือขั้นตอนการดำเนินงาน เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และผู้ัรับผิดชอบ
ขั้นตอนการปฏิบัติ  วัน เวลา และกิจกรรมดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ
เอกสารอ้างอิงสื่อเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆ ที่นำมาใช้ในการดำเนินงาน








 4. การลงมือทำโครงงาน 
          เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทำโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้
     4.1 การเตรียมการ
          การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างทำโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
     4.2 การลงมือพัฒนา
          1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทำให้ผลงานดีขึ้น
          2. จัดระบบการทำงานโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่่อยทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทำ ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
          3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน 
     4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข
          การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นทำงานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ ที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทำด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย 
     4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ
          เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทำโครงงาน และทำการอภิปรายผลด้วย เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำ ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนำหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
     4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
          เมื่อทำโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้  








5. การเขียนรายงาน 
          การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี้
     5.1 ส่วนนำ
          ส่วนนำ เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย
          1. ชื่อโครงงาน
          2. ชื่อผู้ทำโครงงาน
          3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
          4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที่มีส่วนช่วยทำให้โครงงานสำเร็จ
          5. บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินการ และผลที่ได้โดยย่อ
     5.2 บทนำ
          บทนำเป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย
          1. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
          2. เป้าหมายของการศึกษาค้นคว้า
          3. ขอบเขตของโครงงาน
     5.3 หลักการและทฤษฎี
          หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนำมาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย 
     5.4 วิธีดำเนินการ
          วิธีดำเนินการ อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำงาน  
     5.5 ผลการศึกษา
          ผลการศึกษา นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก  
     5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
          สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทำ งาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนำ ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทำโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทำ โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนาคตด้วย  
     5.7 ประโยชน์
          ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนำผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย  
     5.8 บรรณานุกรม
          บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทำ โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการทำ โครงงานนี้การเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย  
     5.9 การจัดทำคู่มือการใช้งาน
          หาโครงงานที่นักเรียนจัดทำ เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
          1. ชื่อผลงาน
          2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้
          3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทำงานได้อย่างสมบูรณ์
          4. คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทำ หน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมาเป็นข้อมูลขาออก
          5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทำงานในฟังก์ชันหนึ่งๆ   








6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน           การนำเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทำโครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทำได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบการรายงานด้วยคำพูดในที่ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคำพูด เป็นต้น โดยผลงานที่นำมาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
          1. ชื่อโครงงาน
          2. ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
          3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
          4. คำอธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงาน
          5. วิธีการดำเนินการที่สำคัญ
          6. การสาธิตผลงาน
          7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จากการทำโครงงาน

ที่มา : http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content2.html



ที่มา : https://sites.google.com/site/wasanacom551/_/rsrc/1422438797015/to-dos/l05-02-project-procedure.png



🔆แบบเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ 🔆

1. ชื่อโครงงาน ____________________________________
2. ประเภทโครงงาน _________________________________
3. ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
          1) ________________________________________________________________________
          2) ________________________________________________________________________
          3) ________________________________________________________________________
          4) ________________________________________________________________________
          5) ________________________________________________________________________
4. ครูที่ปรึกษาโครงงาน ___________________
5. ครูที่ปรึกษาร่วม __________________
6. ระยะเวลาดำเนินงาน _________________________________________________________________________________
7. แนวคิด ที่มา และความสำคัญ
          _______________________________________________________________________________________________
          _______________________________________________________________________________________________
   
8. วัตถุประสงค์
          1) ________
          2) ________
          3) ________
9. หลักการและทฤษฎี
          _______________________________________________________________________________________________
          _______________________________________________________________________________________________
       
10. วิธีดำเนินงาน
ขั้นตอนการดำเนินงาน
วัสดุอุปกรณ์
งบประมาณ
ผู้รับผิดชอบ
11. ขั้นตอนการปฏิบัติ
วัน/เดือน/ปี
กิจกรรม
ผู้รับผิดชอบ
12. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
          1) ________
          2) ________
          3) ________
13. เอกสารอ้างอิง
          1) ________
          2) ________
          3) ________
          4) ________
14. ผลการพิจารณาโครงงาน
                    o  อนุมัติ                               o  ควรปรับปรุง

ลงชื่อ ....................................................
ครูที่ปรึกษาโครงงาน




ที่มา : http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/workshop.html


ตัวอย่างการเขียนแบบเสนอโครงงานคอมพิวเตอร







    วิดิโอ    ⢌



https://www.youtube.com/watch?v=SDnWOGjBAIg
https://www.youtube.com/watch?v=sTf-f6WOz_4










กิจกรรมที่ 1 องค์ความรู้โครงงานคอมพิวเตอร์






CR:www.hiclasssociety.com




     โครงงานคอมพิวเตอร์     
      

         คือ กิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ทำให้นักเรียนมีอิสระทางความคิดทางการศึกษาปัญหาและสิ่งต่างๆ ที่ตนเองในใจ โดยนักเรียนต้องมีการวางแผนการศึกษาและนักเรียนจะต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ความรู้กระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะท าโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถท าโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์  ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และท าให้เกิดความสามัคคีในการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม รวมถึงการฝึกความกล้าแสดงออกในการนำเสนอผลงานของตน













     ความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์    

     
        โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและให้ค าแนะน าความสามารถที่เกิดจากการท าโครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญ 5 ประการดังนี้
        1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทำโครงงานต้องนำเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทำโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่อ
อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
        2. ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
            2.1 การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร
            2.2 การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องน าความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน
            2.3 การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนน าความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
            2.4 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทำโครงงานใดและไม่ควรทำโครงงานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคำนวณเลขหวย ส าหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อ
สังคม ท าให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น
            2.5 การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการน าเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและ
ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คำปรึกษา
        3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
        4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
        5. เกิดจากการที่ผู้เรียนได้น าความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันน าไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
        6. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม

ข้อมูลจาก : http://www.hs.ac.th/A01%20(2).pdf








   ขอบข่ายโครงงานคอมพิวเตอร์    





ขอบข่ายของโครงงาน
ดำเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์
และครูอาจารย์ เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษา

มีองค์ประกอบดังนี้
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทำโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดำเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กำหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดำเนินงานด้วย

ข้อมูลจาก : https://www.gotoknow.org/posts/314100














ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่6


ใบงานที่ 5 บทความสารคดีที่นำมาใช้สำหรับการเขียนโครงร่าง









 PAINT    TOOL    S A I




 

 
     Paint Tool SAI   โปรแกรมฝึกวาดภาพยอดนิยม    
                PaintTool SAI (โปรแกรม PaintTool SAI ฝึกวาดภาพการ์ตูน) : สำหรับโปรแกรมนี้มีชื่อว่า โปรแกรม PaintTool SAI เป็น โปรแกรมวาดรูป จากทีมผู้พัฒนาโปรแกรมจากแดนอาทิตย์อุทัย หรือจาก ประเทศญี่ปุ่น (Japan) มีประวัติการพัฒนามาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 เลยทีเดียว โปรแกรม PaintTool SAI นี้ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อที่จะให้คุณได้ ปลดปล่อยจินตนาการ ให้คุณได้ปลดปล่อยจินตนาการของคุณออกมาได้ อย่างเต็มที่ หน้าตาของ โปรแกรม PaintTool SAI ก็ใช้งานง่าย ไม่หนักเครื่อง ตัวโปรแกรม PaintTool SAI ทำงานได้เสถียร และภายใน PaintTool SAI ประกอบไปด้วยเครื่องมือสำหรับฝึกวาดภาพ วาดรูป ต่างๆ นานา มากมาย อาทิ AirBrushe PaintBrush เครื่องมือวาดสีน้ำ ดินสอ และยางลบ
โปรแกรม PaintTool SAI ตัวนี้ รองรับการแก้ไขภาพ วาดภาพ ในรูปแบบของลำดับชั้นเลเยอร์ (Layer) ที่จะช่วยให้คุณได้ตกแต่งกราฟฟิกได้อย่างสมจริง และย้อนหลังกลับไปแก้ส่วนประกอบต่างๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้โปรแกรม PaintTool SAI ยังสามารถปรับแต่ง แก้ไขภาพถ่าย รวมถึงงานอาร์ตเวิร์คต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆ 








Program Features (คุณสมบัติ ความสามารถของโปรแกรมฝึกวาดภาพ PaintTool SAI)
  • รองรับการฝึกวาดภาพด้วยปากการูปแบบต่างๆ
  • วาดรูป วาดภาพได้เหมือนจริงด้วยเครื่องมือตกแต่งที่ครบครันและยังมีคุณสมบัติของ โปรแกรมแต่งรูป อีกต่างหาก
  • ด้วย 16 Bits ARGB Channels ทำให้สีสีนของรูปที่วาดออกมาเหมือนจริงมากที่สุด
  • หน้าตาของโปรแกรม PanitTool SAI ใช้งานได้ง่าย และมีคำแนะนำคอยช่วยเหลือ
  • รองรับเทคโนโลยี Intel MMX
  • ป้องกันงานของคุณเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างเช่น โปรแกรม PaintTool SAI ค้างหรือปิดตัวเองลงอัตโนมัติ

รูปตัวอย่าง Screenshot การใช้งาน โปรแกรม PaintTool SAI
CR.http://software.thaiware.com/1448-PaintTool-SAI.html







     Paint Tool SAI    วิธีการใช้งาน     




 วิธีใช้ SAI เบื้องต้น

หัวข้อที่จะนำเสนอวันนี้


อ่านบทความอื่นๆคลิก!!!
 โปรแกรม SAI เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับวาดรูปอย่างหนึ่งค่ะ
คุณภาพอาจไม่เท่า Photoshop แต่ถ้าใครเป็นมือใหม่หัดวาดในคอมล่ะก็ขอแนะนำค่ะ 

ใครยังไม่มีโปรแกรม ทางแถมเมนูทางซ้ายมาให้ค่ะ

เรามาเริ่มกันเลยค่ะ 
โปรแกรม SAI ลักษณะการใช้งานจะเหมือน  Photoshop ค่ะ 
คือควรจะแบ่งการวาดหรือลงสีเป็น Layer ค่ะ เช่นเงาส่วนเงา ผมส่วนผมค่ะ 

เมื่อโปรแกรมขึ้นมาะเป็นประมาณนี้


ถ้าลักษณะ เครื่องมือ ของใครไม่เหมือนรูปไม่ต้องตกใจนะค่ะ
คือในรูปแอดทำการจัดเครื่องมือให้ใช้ได้สะดวกตามความถนัดส่วนตัวค่ะ 
หาดใครต้องการจะปรับปรับเครื่องมือ 
สามารถปรับได้ที่แถบ Window ค่ะ
เริ่มแรกก็ file แล้ว New หรือ open รูปที่จะวาดก็ได้ค่ะ
ซึ่งเราสามารถกำหนดขนาดโน้นนี่นั้นของกระดาษของเราได้ค่ะ

โอเค ในการเริ่มวาดรูปนั้นเราจำเป็นต้องสร้าง layer ก่อนแล้ววาดค่ะ
ซึ่ง layer ของตัว sai จะแบ่งเป็น 2 แบบ 
คือ layer กับ Linework layer 


 ซึ่ง layer นั้นเป็นเป็นส่วนสำหรับวาดภาพและลงสีโดยที่จะมีเครื่องและอุปกรณ์ให้ใช้หลายแบบ
ลองไปใช้ดูนะ 


ในส่วนของ Linkwork นั้นจะเป็นเครื่องมือสำหรับตัดเส้นโดยเฉพาะ 
สำหรับคนที่ใช้เมาส์หนูเลยแหละ 
สำหรับ Linkwork จะมีเครื่องในการปรับแต่งเส้น ตามรูปค่ะ


ถ้าใครสงสัย ก็ลองไปดูที่เทคนิคการตัดเส้นนะ เป็นการตัดเส้นแบบที่ 3 ค่ะ

เทคนิคปรับเส้น

ต่อมาคือการลงสี
สำหรับการลงสีของ SAI นั้น เราลงสีเช่นเดียวกับ photoshop
โดยเราจะแยกชั้นสีเป็นชั้นๆค่ะ
เช่น เราวาดรูปมา หนึ่งรูป


เราต้อง new layer
ย้ำนะ ต้องเป็น layer เท่านั้น เพราะ Linkwork จะไม่เหมาะกับการลงสี
จากนั้นเราทำการลงสีตามใจฉันไปเลย
เช่น ตัวนี้ แอดใช้การเทสี
แอดก็ตั้งค่าอุปกรณ์การเทให้เป็น คิดรูปภาพทั้งหมด
แอดก็เทๆๆ สีตามชอบ  แบบนี้

ซึ่งแต่ละเครื่องมือก็จะสามารถปรับได้หลายรูปแบบ
ลองไปเล่นดู สนุก 555

ต่อมาเป็นเรื่องของโหมดใน SAI
หลังจากลงไป แน่นอนถ้าอยากให้ภาพสวย ต้องมีเงา
และนี่คือพระเอกของเรา Mode

ซึ่งแต่และโหมดจะแต่งต่างกันออกไป แต่ตัวอย่างที่แอดจะมานำเสนอวันนี้คือ 

Multiply โหมดที่แอดชอบใช้ที่สุด 


จากรูปแอดทำการ สร้าง layer ใหม่และตั้งโหมด Multiply เรียบร้อย
นอกจากโหมดแล้ว แอดขอนำเสนอ
Clipping Group

ซึ่งจะเป็นการบังคับให้เราลงที่ได้ตามเลยก่อนหน้าเท่านั้น ซึ่งลืมไปได้กับการลงสีออกนอกพื้นที่

จากนั้นก็ละเลงเลยค่ะ
 แนะนำ ถ้าระบายเงา ให้ใช้สีเทาอ่อนค่ะ
แบบนี้

ซึ่งเราสามารถมี layer กี่อันก็ได้ 
รูปบางรูปที่เห็นสวยๆกันคนวาดต้องใช้เทคนิคหลายๆอย่าง 
บางรูปมี่ 20  30  layer ก็มี 
ยังไงก็ขึ้นอยูกับการฝึกฝน นะค่ะ 
มีอะไรสงสัยถามในเพจได้เลย 
จะให้ดีไลท์เป็นกำลังใจให้แอดด้วย 555



แปะๆ 555 ใครว่า วาดรูปมันง่าย


Cr.http://saibydema.blogspot.com/#!/2016/04/sai.htm







วิดิโอเกี่ยวกับ PAINT TOOL SAI